สุนัขใหญ่ราคาแพง ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ทำไมถึงมีราคาแพง มากที่สุดในโลก
สุนัขใหญ่ราคาแพง ที่หลายคนยังไม่รู้จัก นั่นก็คือสายพันธุ์ ทิเบต มาสทิฟฟ์ ที่มีต้นกำเนิด อยู่ในประเทศทิเบต ซึ่งความน่าสนใจ ของสุนัขสายพันธุ์นี้ ก็คือลักษณะทางกายภาพ ที่มีขนาดใหญ่ มากที่สุดในโลก ถ้าจะเปรียบเทียบ คงมีขนาดคล้ายคลึง กับสุนัขสายพันธุ์ไซบีเรียน หรือโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ แต่ในปัจจุบันนี้ ด้วยลักษณะที่อยู่อาศัยและความเรียบง่าย ในการเลี้ยงสัตว์ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่
จึงนิยมสุนัขขนาดเล็ก ไปจนถึงกลางมากกว่า จึงเป็นเหตุผล ที่ทำให้สุนัข สายพันธุ์ทิเบต มาสทิฟฟ์ ไม่ได้ถูกพูดถึง และเป็นที่รู้จัก อย่างแพร่หลายในวันนี้เราจะให้ข้อมูล ของสุนัขพันธุ์นี้ รวมไปถึงสาเหตุ ที่ทำให้ราคาค่าตัว มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
เริ่มต้นจากในสมัยอดีต สุนัขพันธุ์นี้ มีหน้าที่ในการ ต้อนฝูงแกะและ ฝูงจามรี ตามแนวเทือกเขาต่างๆที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ ด้วยลักษณะความดุร้าย แต่ซ่อนเร้นไปด้วย ความจงรักภักดี ให้กับเจ้าของ จึงทำให้เป็นที่นิยม ของกลุ่มคน ในหมู่ชาวบ้าน สำหรับการใช้ประโยชน์ อื่นๆอีกมากมาย
โดยแต่เดิม สุนัขสายพันธุ์นี้ มีขนาดตัวที่ใหญ่มาก แต่ในปัจจุบันมี การผสมข้ามสายพันธุ์ มาหลายช่วงขณะ ทำให้เกิดความผิดเพี้ยน ทางด้านพันธุกรรม จึงเป็นสาเหตุ ให้ค่าตัวของ ทิเบต มาสทิฟฟ์ที่เป็นสายพันธุ์แท้ดั้งเดิม
สืบเชื้อสายจากโบราณ มีมูลค่าสูงมาก ที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน และในปัจจุบัน ด้วยความที่สายพันธุ์แท้ หายากมากขึ้นกว่าเดิม จึงมีหน่วยงานและ กลุ่มคนทั่วไป เข้ามาร่วมอนุรักษ์ ให้สุนัขสายพันธุ์นี้ ยังคงอยู่ ได้ยังปลอดภัย
สุนัขใหญ่ราคาแพง ทำไมถึงมีขนาดตัว โตมากกว่าสายพันธ์อื่นๆ
ด้วยสภาพแวดล้อม ในประเทศทิเบต ส่วนใหญ่จะมีลักษณะ เป็นภูเขาและ ประชาชนพื้นเมืองทั่วไป ก็อาศัยอยู่ตาม แนวเทือกเขาต่างๆ ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น มากกว่าประเทศอื่นๆ ในทวีปนั้น ทำให้ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่อยู่อาศัยหรือ สัตว์เลี้ยงในบริเวณนั้น จะต้องมีการปรับตัว ในลักษณะทางกายภาพ ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณชั้นไขมัน สภาพผิวหนัง และความแข็งแรง
ของร่างกายที่พร้อมจะอดทน ต่อการเปลี่ยนแปลง ของสภาวะอากาศ ที่ไม่แน่นอน จึงเป็นเหตุผล ให้ลักษณะของ สุนัขสายพันธุ์ ทิเบต มาสทิฟฟ์ มีการปรับตัว มาตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงปัจจุบันนี้
โดยสังเกตได้จาก กะโหลกที่มีขนาดใหญ่ปริมาณขน ที่มีจำนวนมาก และซ้อนกันหลายชั้น เพื่อเพิ่มความอบอุ่น ให้กับร่างกาย กล้ามเนื้อแขนขา ที่มีขนาดโต มากเป็นพิเศษ สำหรับการเดินทาง
ในระยะทางไกล ที่มีลักษณะเป็น เนินสูงตามแนวเทือกเขาโดยทั้งหมดเหล่านี้ ก็จะส่งผลให้ลักษณะ ทางกายภาพ รวมไปถึงพันธุกรรม ในรุ่นต่อไป เป็นลักษณะที่เติบโตขึ้น เพื่อให้สอดคล้อง ค้นหาสายพันธุ์สุนัข
กับสภาพแวดล้อม ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงเป็นสาเหตุให้ในวันนี้สุนัขสายพันธุ์ ทิเบต มาสทิฟฟ์ เป็นสัตว์เลี้ยง ที่มีขนาดใหญ่ มากที่สุดในโลก ซึ่งขนาดรูปร่าง จะมากกว่า 2-3 เท่าตัว เมื่อเปรียบเทียบ กับสุนัขสัตว์เลี้ยงทั่วไป
ลักษณะนิสัยของ สุนัขสายพันธ์นี้ เป็นอย่างไร ?
ลักษณะภายนอก ของสุนัขพันธุ์นี้ อาจจะมองดู ว่าน่าเกรงขาม และดุร้าย ด้วยปริมาณขนที่มี อยู่อย่างหนาแน่น และซ้อนกันหลายชั้น ทำให้ยิ่งเพิ่มความ น่าเกรงกลัว เป็นอย่างมาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สุนัขพันธุ์นี้ มีความดุร้าย ต่อสิ่งแปลกปลอม ที่เกิดขึ้นกับ เจ้าของหรือ สิ่งแวดล้อมที่ อาศัยอยู่แต่สำหรับการ ปฏิบัติต่อเจ้าของ หรือผู้ดูแล สุนัขพันธุ์นี้มีความซื่อสัตย์ และจงรักภักดี เป็นอย่างมาก
ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ ในสถานการณ์ ยากลำบากเพียงใด คุณจะสามารถ ได้รับความช่วยเหลือ จากสุนัขพันธุ์นี้ อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าหลายคน อาจจะยังไม่กล้า เข้าไปสัมผัส หรือตัดสินใจเลี้ยงดู
เพราะด้วยขนาดตัว ที่มีรูปร่างใหญ่ เกินกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไป แต่ถ้าคุณได้ลอง ศึกษานิสัยใจคอ และใช้เวลาร่วม กับสุนัขพันธุ์นี้ คณจะเห็นถึง ข้อดีอีกหนึ่งอย่าง ก็คือเขาเป็นสัตว์เลี้ยง สายพันธุ์สุนัข
ที่ขี้อ้อนและ เชื่อฟังคำสั่ง ของเจ้านายเป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะสอน ให้ลุก ยืน นั่ง นอน หรืออิริยาบถ อะไรก็ตาม แต่สุนัขพันธุ์นี้สามารถ เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถจด จำได้ในเวลาไม่นาน
ซึ่งทั้งหมดที่เรา กล่าวมานี้คือ ลักษณะนิสัยเบื้องต้น ของสุนัขสายพันธุ์ ทิเบต มาสทิฟฟ์ ที่น่าสนใจและ เป็นมนต์เสน่ห์ให้กับ สุนัขสายพันธุ์นี้ ที่ทำให้เกิดความน่ารัก น่าเอ็นดูทุกครั้ง ที่ใครก็ตาม ได้เข้าไปสัมผัส
สุขัที่ได้ถูกขนานนามว่า เป็นสายพันธ์โบราณ และเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนธิเบต
ไม่มีใครทราบ ที่มาอย่างชัดเจน ถึงต้นกำเนิดของ สุนัขสายพันธุ์ ทิเบต มาสทิฟฟ์ เพราะตั้งแต่อดีต ก่อนตั้งอารยธรรม และชุมชนในแนว เทือกเขาประเทศทิเบต ก็มีสุนัขสายพันธุ์นี้ ที่ถือกำเนิดมาก่อน สายพันธุ์สุนัขใหญ่
และยังเป็นสัตว์เลี้ยง ที่สืบทอดกันมา ตั้งแต่สมัยโบราณ ทำให้ในปัจจุบัน ทุกคนได้ขนานนามว่า เป็นสุนัขที่สืบเชื้อสาย มาจากโบราณ และยังคงถือว่า เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยดูแลปกปักษ์ ชาวบ้านให้เกิด
ความปลอดภัยและ ยังนำไปใช้งาน ในการต้อนฝูงแกะ และจามรี ที่เลี้ยงไว้อีกด้วย โดยลักษณะเด่น ที่ชาวทิเบตยกตัวอย่าง ให้เห็นถึงความ มหัศจรรย์ของสุนัข สายพันธุ์นี้ก็คือ จุดคิ้วบริเวณด้านบน ของดวงตา ที่จะมีทั้งสีน้ำตาล และสีดำ
ขึ้นอยู่กับลักษณะ ทางพันธุกรรมของ สายพันธุ์แต่ละตัว โดยสามารถเปรียบเทียบ ได้กับสัญลักษณ์ แห่งความโชคดี ที่มอบให้กับทุกคน ที่ได้พบเห็นและ เลี้ยงดูเป็นต้น และก็ยังมีอีกหลาย ความเชื่อที่เกี่ยวกับ สุนัขสายพันธุ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวแทน
ของความซื่อสัตย์ ที่มนุษย์มีให้กับ พระผู้เป็นเจ้า หรือเทพเจ้า ที่นับถือก็นำมาเป็นส่วนหนึ่ง ของความเชื่อ จนทำให้สุนัข สายพันธุ์นี้เป็นตัวแทน ของความศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่คู่กับชุมชน มาเป็นเวลาช้านาน สุนัขที่แพงที่สุดในโลก
ช่วงฤดูของการสืบพันธ์ ที่มีเพียงแค่ ปีละ1ครั้งเท่านั้น
โดยปกติทั่วไป สุนัขหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ก็จะมีฤดูการผสมพันธุ์ 2-3 ครั้งต่อปี ทำให้อัตรา การเจริญเติบโต และแพร่พันธุ์ มีอยู่อย่างมากมาย ไม่ได้ส่งสัญญาณ ถึงโอกาสที่จะสูญพันธุ์ แต่สำหรับสุนัขพันธุ์นี้ จะมีการสืบพันธุ์ เพียงแค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ของทุกปี ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ อัตราการขยายเผ่าพันธุ์ มีจำนวนลดลง ในแต่ละปี เนื่องจากสภาพแวดล้อม ที่เปลี่ยนไป ทำให้การอยู่รอด ของสุนัขสายพันธุ์นี้ ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน จึงทำให้กลุ่มคน หันมาอนุรักษ์ และให้ความสำคัญ
กับการคงอยู่ของ สุนัขพันธุ์ทิเบต มาสทิฟฟ์ มากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันนี้ มีการเก็บเชื้อและ ตัดแต่งพันธุกรรม เพื่อให้รุ่นลูกหลาน มีความแข็งแกร่ง และอดทนต่อ สภาพแวดล้อมที่ เปลี่ยนไปได้เป็นอย่างดี สุนัขขนฟู
ซึ่งจะช่วยเพิ่ม โอกาสในการ อยู่รอดของสุนัขสายพันธุ์นี้ นอกเหนือจาก ช่วงเวลาในการ ผสมพันธุ์สิ่งที่บ่งบอก ให้เราสังเกต ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือจะมี การผลัดขนทุกครั้ง ก่อนช่วงฤดูการสืบพันธุ์นั้นเอง ซึ่งวิธีนี้นิยมใช้ เป็นอย่างมากสำหรับ
กลุ่มคนในชุมชน แนวเทือกเขาทิเบต เพราะเขาไม่ได้ ยึดถือช่วงเวลาตาม ปฏิทินเพียงอย่างเดียว แต่เขาใช้วิธีการสังเกต และสัญชาตญาณ ในการดูแลสัตว์เลี้ยง ของพวกเขา โดยทั้งหมดนี้ ก็คือลักษณะและ รูปแบบการสืบพันธุ์ ของสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ และมูลค่าแพง มากที่สุดในโลก