สุนัขขนฟู กับการ เตรียมตัวก่อนเลี้ยงสุนัข จะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
สุนัขขนฟู การที่เราจะรับเลี้ยงสุนัขสักตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็น สุนัขพันธุ์เล็กขนสั้น สุนัขขนยาว ต่างก็เป็น สุนัขน่าเลี้ยง ทั้งนั้น เพราะฉนั้นแล้ว เราจึงควรดูและเขา ให้เหมือนสมาชิก ในครอบครัวเราคนนึง เฉพาะนั้นแล้วเรามาเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะรับสมาชิกแสนรู้ตัวนี้ก้น เรื่องแรกและเรื่องที่สำคัญ นั้นก็คือการเตรียมตัวเราให้พร้อม การเลี้ยงสุนัข
หรือการเลี้ยงสัตว์อะไรก็ตามแต่ เราจะต้องดูแล และรับผิดชอบสิ่งๆนั้น ไปตลอดชีวิต ซึ่งแน่นอนว่าสัตว์ทุกชนิด ไม่สามารถหาอาหารเองได้ อาบน้ำเองได้ เจ็บป่วยไม่สามารถบอกเราได้ และเขาก็ต้องการเที่ยวเล่น และอยู่กับของตลอดอีกด้วย เราจึงอยากให้คุณตัดสินใจให้ดี ต่อมาเท่อคุณตัดสินใจได้แล้ว ก็มาต่อกันในเรื่องที่อยู่อาศัย เราต้องดูก่อนว่า
ที่ที่เราพักอาศัยนั้น เป็นบ้าน คอนโด เพราะเราจะได้เลือกถูก ว่าสุนัขแบบไหนที่เหมาะ จะมาอยู่กับเรา เพราะเรื่องของพื้นที่นั้นก็สำคัญเช่นกัน มาต่อกันในเรื่องของเวลา เป็นอีกหนึ่งความสำคัญ ไม่ใช่ว่าเราจะปล่อยเอาไว้ แล้วจะเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ สุนัขนั้นถือได้ว่า เป็นสัตว์ที่รักเจ้าของมาก เพียงคุณหายไปไม่กี่นาที และเมื่อกลับมาถึงบ้าน สุนัขเหล่านั้น
ก็จะแสดงอาการดีใจ เหมือนไม่ได้พบคุณมานาน เพราะเขาเองก็มีหัวใจ และต้องการความรักจากคุณเสมอ มาต่อกันในเรื่องของค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการหาหมอซีนวัคซีน ค่าอุปกรณ์ของใช้ ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงเมื่อสุนัขของคุณเจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ถือว่าใช้เงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ต่อมาในเรื่องของ การสำรวจโรงพยาบาลสัตว์
ในบริเวณบ้านของคุณ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ จะได้รับการรักษาได้ทันที หรือแม้แต่ร้านขายอาหารสัตว์ ที่คุณต้องการซื้อ อยู่เป็นประจำนั้นเอง และสุดท้ายควรศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับการเลี้ยงดู ของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งจะมีนิสัย ความชอบ ความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างชอบอาการร้อน อากาศหนาว ขี้อ้อนติดคน หรือแม้แต่การติดสัตว์ ที่เราต้องเตรียมรับมือ กับเรื่องเหล่านี้เอาไว้ก่อน หากคุณอ่านและคิดว่าเรื่องเหล่านี้ สามารถรับมือได้ ก็สามารถหาสมาชิกใหม่เข้าบ้านกันได้เลย
สุนัขขนฟู สำหรับคนที่ชื่นชอบ หมาพันธุ์เล็ก มาดูกันว่ามีสายพันธ์ไหนน่าเลี้ยงบ้าง?
สำหรับใครที่กำลังมองหา น้องหมาตัวเล็ก เอาไปเลี้ยงแล้วหละก็ เรามีสายพันธุ์น่ารักๆ ที่จะเป็นเพื่อนคุณได้อย่างแน่นอน เริ่มกันที่ สุนัขสายพันธุ์นิยมเลี้ยง อย่างชิวาวา สุนัขสายพันธุ์เล็กที่สุดในโลก ลักษณะที่ดีของชิวาวานั้น ก็คือหัวกลม หน้าสั่น ส่วนลำคอไปถึงหาง ดูแล้วจะเห็นเป็นทรงสี่เหลี่ยม และมีลักษณะการเดิน ที่เตะขาเหมือนม้าอีกด้วย
ลักษณะนิสัย ที่มีความความน่ารัก ขี้อ้อนติดเจ้าของ จะมีอายุโดยเฉลี่ย 13-15ปี ถือได้ว่าเป็นสุนัข ที่มีความแข็งแรงสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว ต่อมากับสุนัขสายพันธุ์ชิสุ หนึ่งในสายพันธุ์จักรพรรดิจีน ที่มีมีต้นกำเนิดจากทิเบต โดยแผงคอนั้นให้ความคล้ายคลึง กับแผงคอสิโตนั้นเอง
ซึ่งคำว่าชิสุ ก็ยังหมายถึงสิงโตอีกด้วย จึงมีลักษณะนิสัย ที่กล้าหาญ สง่างาม รักสะอาด และเป็นมิตรกับผู้อื่นเสมอ จะมีอายุโดยเฉลี่ย 10-18ปี เป็นสายพันธุ์ที่มีอายุค่อนข้างยืนยาว โรคที่จะพบจะในชิสุได้บ่อยๆนั้นคือ โรคตาแห้ง หรือโรคหูน้ำหนวกหรือหูอักเสบ ที่เราคอยจะต้องระวังในสุนัขสายพันธุ์นี้
สุนัขขนฟู กับหมาพันธุ์ใหญ่ใจดี ที่มีความน่ารักแบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อนจะเป็นอย่างไร?
หากพูดถึงสุนัขพันธุ์ใหญ่ เราก็คงจะนึกถึงความดุร้ายน่ากลัว ที่เราเห็นแล้วดูน่าเกรงขามแบบสุดๆ แต่ในความจริงแล้วนั้น ยังมีสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ ที่น่ารักใจดี แถมขี้อ้อนแบบสุดๆมาฝากกัน สายพันธุ์แรกนั้นก็คือ ไจแอนท์ อลาสกัน มาลามิวท์ ที่มีน้ำหนักมาตรฐานอยู่ที่ 75 – 85ปอนด์ และสามาหนักได้ถึง 190ปอนด์ สูงได้มากถึง 35นิ้ว หากจะเปรียบเทียบ
ว่าตัวใหญ่เหมือนหมีแล้วหละก็ คงจะไม่แปลกอะไร แต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตขนาดนี้ บอกเลยว่านิสัยนั้น ตรงกันข้ามแบบสุดๆ ด้วยความสุภาพ ใจดีนี้เองที่ทำให้เหมาะแก่การเลี้ยง ในครอบครัวที่มีเด็ก เพราะสามารถให้เด็กเล่นกับสุนัขของเขา ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ตอบโต้ใดๆ และอีกหนึ่งสุนัขสายพันธุ์ใหญ่ ที่เราอยากจะแนะนำนั้นก็คือ นิวฟาวนด์แลนด์
กับขนาดตัวที่มีน้ำหนักถึง 100 – 170 ปอนด์ และสูงถึง 25-29นิ้ว บอกเลยว่าสุนัขสายพันธุ์นี้ ชื่นชอบการว่ายน้ำเป็นที่สุด และยังถูกฝึกให้คอยช่วยเหลือ เมื่อเกิดอันตรายขึ้นในน้ำ และมีความรักเด็กแบบสุดๆ ส่วนนิสัยนั้นถึงแม้จะเป็นหมาใจดีมาก แต่ก็มีความไฮเปอร์อยู่นิ่งๆได้ไม่นาน แต่ติดเจ้าของที่เลี้ยงอย่างมาก น่ารักขี้อ้อน แถมเก่งขนาดนี้ต้องมีไว้สักตัวแล้ว
มาดูความสวยงามของ สุนัขสายพันธุ์ไทย ที่มีความน่าสนใจไม่แพ้สายพันธุ์เมืองนอก
สำหรับใครที่สนใจ และอยากลองเลี้ยงหมาไทย แต่ไม่รู้ว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง ลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร เราจะพาไปดูกับ 2สายพันธุ์นี้ ได้แก่สุนัขพันธ์ไทยหลังอาน และสุนัขไทยบางแก้ว โดยจะขอเริ่มที่ สุนัขพันธ์ไทยหลังอาน ซึ่งกล่าวได้ว่า สายพันธุ์นี้นั้น เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมือง ที่เก่าแก่ของไทย โดยลักษณะของหลังอานนั้น จะมีขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มาก
ขนตามตัวสั้น หูตั้งเป็นลักษณะสามเหลี่ยม บริเวณจมูกมีสีดำ ปากรูปลิ่ม มีหางคล้ายรูปดาบ โดยจุดเด่นที่ทำให้ถูกเรียกว่าหลังอานนนั้น คือขนกลางลำตัว ที่ขึ้นแนวย้อนกับแนวขนปกติ โดยสีของหลังอาน เป็นที่นิยมนั้น จะมีทั้งหมด 4สี สีน้ำตาลแดง, สีดำปลอด, สีสวาด และสีกลีบบัว แต่ก็จะมีลายอื่นๆอีก อย่างลายเสือ แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก
โดยจะมีขนาดของตัวผู้ และตัวเมียที่ต่างกัน ตัวผู้นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ความสูงประมาณ 52 -52ซม. หนักประมาณ 22-24 กิโล ส่วนตัวเมียจะมีขนาด ความสูงประมาณ 47 – 57ซม. หนักประมาณ 20-22 กิโล ถือได้ว่าหลังอานนั้น เป็นสุนัขประจำชาติไทย เลยก็ว่าได้ และลักษณะนิสัยของหลังอานนั้น จะเป็นหมาที่ซื่อสัตว์มากๆ
ไม่ยอมให้มครมาทำร้ายเจ้าของได้ เรียกได้ว่าเลี้ยงหมาพันธุ์นี้แล้ว ปกป้องเราได้อย่างแน่นอน ต่อกันที่สุนัขไทยบางแก้ว โดยมีที่มาไม่แน่ชัดนัก แต่คาดว่าจะผสมมาจาก 3สายพันธุ์คือ สุนัขจิ้งจอก หมาใน และสุนัขพันธุ์ไทย ลักษณะของบางแก้วนั้น จะมีขนที่ฟูยาว มีความแข็งแรงและ ว่องไวเป็นอย่างมาก ช่วงลำตัวหนา เป็นลักษณะสี่เหลี่ยม อกและไหล่กว้าง และหางที่เป็นพวงสวย โดยชอบเล่นน้ำเป็นอย่างมาก มีนิสัยค่อนข้างดุ แต่รักเจ้าของมาก เพราะฉนั้นแล้วจึงเป็นที่รู้กันดี ว่าเจอบางแก้วที่ไหน หากไม่ใช่เจ้าของ อย่าเข้าไปใกล้เลยทีเดียว
การพาสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน เป็นเรื่องที่นิยมกันมากขึ้น มาดูกันว่า สถานที่พาสุนัขเที่ยวได้ จะมีที่ไหนกับบ้าง
หากใครที่มีสัตว์เลี้ยง ในวันหยุดพักผ่อนทั้งที ก็อยากที่จะพาเข้า ออกไปเที่ยวเล่นบ้าง มาดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง ที่ให้เราพาสุนัขไปเดินเล่น เที่ยวแบบชิวล์ๆได้ ที่แรกนั้นก็คือ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ถือว่าที่นั้นได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีบริการตั้งแต่ ให้ยืมรถเข็นที่เป็นของสัตว์โดยเฉพาะ มีโซนให้น้องหมาได้วิ่งเล่น รวมไปถึงร้านอาหาร
ที่มีโซนสำหรับคนที่นำสัตว์เลี้ยงไป มานั่งทานอาหารกับเราได้ด้วย ที่ต่อมาเดอะ พาสิโอ้ พาร์ค กาญจนาภิเษก กับคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์ญี่ปุ่น ในที่แห่งนี้นั้นก็มีทั้งร้านอาหาร ที่พาสัตว์เลี้ยงเข้าได้ ร้านค้าขอกตกแต่งของสัตว์เลี้ยง และที่สำคัญ ที่แห่งนี้นั้น ยังมีมุมถ่ายรูปสวยมากมาย ให้คุณได้เก็บภาพที่ระลึก กับนองหมาของคุณอีกด้วย ปิดท้ายกันอีกสักที่กับ
เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กับพื้นที่เปิดโล่ง ที่จะได้ทำกิจกรรมทั้งน้องหมา และตัวเจ้าของเองด้วย เพราะมีร้านอาหาร ร้านค้า และการตกแต่งแบบย้อนยุค ที่จะทำให้เพลิดเพลินไปกับ ความระลานตาของที่นี้อย่างมาก หากใครใกล้ที่ไหน ก็สามารถไปที่นั้นได้เลย หากมีข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม ก็จะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ทราบกับอีกอย่างแน่นอน